วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2551

แท้งบุตร

แท้งบุตร(Abortion)พบได้บ่อยในหญิงมีครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 4-20 สัปดาห์ สาเหตุเกิดจากการทบกระเทือน มดลูกมีความผิดปกติ ตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์มีความผิดปกติ หรือมารดามีโรคประจำตัว แต่ในกาติดเชื้อจากการแท้งบุตร (setic abortion)มักเกิดจากการตั้งใจทำแท้ง โดยการใช้เครื่องมือหรือสารสกปรกทำให้เกิดการติดเชื้อและอักเสบ :: อาการ
ไข้สูง ปวดในท้องน้อย และปวดหลัง มีเลือดออกทางช่องคลอด ในกรณีที่เป็นมากจะมีอาการปวดบิดในท้องอย่างรุนแรง อาจพบก้อนชิ้นเนื้อของตัวอ่อนหลุดออกมา :: สิ่งที่ตรวจพบ
ไข้สูง อาจมีอาการซีด มีเลือดหรือก้อนชิ้นเนื้อออกทางช่องคลอด :: การรักษา
ในกรณีที่มีการติดเชื้อจากการทำแท้ง ให้รีบส่งแพทย์เพื่อให้การรักษา ซึ่งแพทย์อาจจะให้ยาปฏิชีวนะที่ให้ในขนาดสูง ๆ หรืออาจจะต้องขูดมดลูกต่อไป
:: MENU OF HEALTH ::
")
-->

ผิวหนังอักเสบ(Cellulitis)พบได้ในคนทุกเพศทุกวัย สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus ซึ่งเข้าทางบาดแผล อาจอาจหนามตำ ผิวหนังมีรอยขีด ข่วน หรือแมลงกัดต่อย แล้วทำให้เกิดการอักเสบของชั้นไขมันใต้ผิวหนัง :: อาการ
มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวด บวม ร้อนแดงบริเวณผิวหนังที่อักเสบ :: สิ่งที่ตรวจพบ
มีไข้ ผิวหนังมีลักษณะบวมแดง ร้อน และกดเจ็บ อาจมีท่อน้ำเหลืองอักเสบ เห็นเป็นรอยแดงยาว ต่อมน้ำเหลืองโต :: การรักษา
ให้ผู้ป่วยพักผ่อน ยกส่วนที่อักเสบให้สูง อาจจะใช้น้ำร้อนประคบ
ให้ยาแก้ปวดลดไข้ Paracetamol 500 มก. ครั้ง ละ 1-2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่งโมง
ถ้าอาการไม่ดีขึ้นใน 3 วัน ควรส่งพบแพทย์
:: MENU OF HEALTH ::
")
-->


อาหารเป็นพิษ (Food poisoning)อาหารเป็นพิษ (Food poisoning) พบได้ทั่วๆไป ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นเป็นหมู่ในผู้ที่ร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน สาเหตุเกิดจากอาหารมีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรีย staphylococcus aureus , streptococcus , salmonella หรือ clostidium botulinum :: อาการ
ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อแบคทีเรียที่ผู้ป่วยได้รับ
จากเชื้อ staphylococcus aureus ซึ่มักจะปนเปื้อนอาหารประเภทขนมจีน สลัด นำปลาหวาน ฯลฯ หลังรับประทานอาหาร เข้าไป ผู้ป่วยจะมีอาการคลื่นใส้ อาเจียน ปวดบิดในท้องเป็นพักๆ ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ ส่วนมากจะไม่มีอาการไข้ :: การรักษา
ให้ยาแก้ท้องเดิน Kaolin หรือ Bismuth soda ผู้ใหญ่ครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ เด็ก 1-2 ช้อนชา ทุก 4-6 ชั่วโมง
ถ้าถ่ายเหลวมากให้ผงนำตาลเกลือแร่ดื่มแทนน้ำ ซึ่งอาการจะค่อยๆหายเองภายใน 1-2 วัน
ไม่ควรให้ยาปฏิชีวนะเพราะสาเหตุท้องเดินเกิดจากพิษของเชื้อโรค ไม่ใช่ตัวเชื้อโรค
จากเชื้อ streptococcus ซึ่งมักจะปนเปื้อนอาหารประเภทเนื้อสัตว์ต่างๆ หลงจากรับประทานเข้าไป 4 - 12 ชั่วโมงจะมีอาการไข้สูง หนาวสั่นคลื่นใส้อาเจียน ปวดบิดในท้องเป็นพักๆ ถาสยอุจจสระเป็นน้ำ :: การรักษา
ให้การดูแลเช่นเดียวกับอาหารเป็นพิษจากเชื้อ staphylococcus aureus และในกรณีไข้สูงให้ยาลดไข้ paracetamol 500 มก. ครั้งละ 1 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง
จากเชื้อclostidium botulinum เป็นเชื้อแบคทีเรียที่พบในอาหารกระป๋อง หลังจากรับประทานเข้าไป 8-36 ชั่วโมง มีอาการวิงเวียน คลื่นใส้อาเจียน ปากแห้ง คอแห้ง เจ็บในคอ ปวดบิดในท้อง ท้องเดินในรายท่เป็นมาก พิษของเชื้อจะทำลายระบบประสาท ทำให้มองเห็นภาพเป็น 2 ภาพ กลืนนำลายไม่ได้ นำลายฟูมปาก หายใจไม่ได้เนื่องจาก กล้ามเนื้อที่ช่วยหายใจเป็นอัมพาต :: การรักษา
หากสงสัยให้รีบส่งแพทย์โดยเร็ว
:: MENU OF HEALTH ::
")
-->

การรักษา

คออักเสบ(Pharyngitis)เป็นโรคที่บ่อยในระบบทางเดินหายใจ มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย ที่สำคัญคือเชื้อแบคทีเรีย Beta Streptocuccus graup A ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรครูมาติก ไข้ดำแดง และหน่วยไตอักเสบ :: อาการ
ในกรณีที่ฉับพลันจะมีไข้สูงทันทีทันใด ปวดศรีษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ครั่นเนื้อครั่นตัว หรือหนาวสะท้าน บางคนอาจจะเข็บคอมากขนกลืนน้ำและอาหารลำบาก :: สิ่งที่ตรวจพบ
ไข้สูง 39-40 องศาเซลเซียส อาจพบทอนซิลบวมโตมีแดงจัดหรือมีจุดหนองเป็นจุดๆบริเวณทอนซิล :: การรักษา
ให้ผู้ป่วยพักผ่อนให้เพียงพอ ให้ดื่มน้ำมาก ๆ และใช้ผ้าเช็ดตัวเวลาไข้สูง รัปทานอาหารอ่อน ดื่มน้ำหวานหรือผลไม้มากๆ
ถ้าเจ็บคอมากให้กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ วันละ 2-3 ครั้ง
ให้ยาลดไข้ Paracetamol ทุก 4-6 ชั้วโมงเวลามีไข้
อาการไม่ดีขึ้นภายใน3 วัน หรือมีอาการหอบ สงสัยมีปอดอักเสบควรรีบส่งแพทย์
:: MENU



ใส้ติ่งอักเสบ(Appendicitis)เป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดในผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้องรุนแรงที่ต้องผ่าตัด(Acute abdomen)สาเหตุเกิดจากการอุดตันของใส้ติ่ง อาจเกิดจากเศษอุจจาระตกลงไปทำให้มี การอักเสบ :: อาการ
มีไข้ต่ำๆ อาการปวดท้องอาจเริ่มปวดเป็นพักๆ รอบสะดือ ต่อมาอีก 3-4 ชั่วโมง อาการปวดจะย้ายไปที่ท้องน้อยขวา ลักษณะปวดเสียดตลอดเวลาต้องนอนนิ่งๆ เคลื่อนไหวตัวจะทำให้ปวดมากขึ้น อาจมีอาการคลื่นใส้ อาเจียนร่วมด้วย :: สิ่งที่ตรวจพบ
ไข้ 37.5-38 องศาเซลเซียส กดเจ็บตรงบริเวณท้องน้อยข้างขวา ในกรณีใส้ติ่งแตกไข้จะสูงจะมีอาการปวด เจ็บทั่วท้องน้อย คลำได้ก้อน :: การรักษา
หากสงสัยให้รีบส่งแพทย์โดยเร็ว
:: MENU OF HEALTH ::
")
-->


วัณโรคปอด(Pulmonary tuberculosis)เป็นโรคที่พบบ่อยในคนที่มีร่างกายอ่อนแอ ภูมิต้านทานโรคต่ำ สาเหตุเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Mycobacterium tuberculosis) :: อาการ
อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลด อาจมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว หรือมีไข้ต่ำ ๆ ตอนบ่าย มีเหงื่อออกตอนกลางคืน ต่อมาจึงมีอาการไข้ ระยะแรกจะไอแห้งๆ ต่อมาจึงมีเสหะไอมากเวลาเข้านอน หรือตื่นนอนตอนเช้า อาการไออาจเรื้อรังเป็นแรมเดือน :: สิ่งที่ตรวจพบ
มีไข้ ซีด หายใจหอบ อาจคลำต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอได้ :: การรักษา
หากสังสัย ควรรีบส่งพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรค
:: MENU OF HEALTH ::
")
-->


มดลูกอักเสบ (Endometritis)เป็นโรคที่พบได้บ่อยในหญิงเจริญพันธ์ สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเข้าทางช่องคลอดขึ้นไปในโพรงมดลูก หรือเป็นภาวะแทรกซ้อน ที่พบในหญิงหลังคลอด แท้งบุตร ทำแท้ง หรือขูดมดลูก :: อาการ
ไข้สูง หนาวสั่น ปวดท้องน้อยอย่างรุนแรง และมีอาการตกขาวเป็นหนองจำนวนมาก และมีกลิ่นเหม็น ถ้าเกิดหลังคลอด หรือแท้งบุตรจะพบว่าน้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็นมาก :: สิ่งที่ตรวจพบ
ไข้สูง กดเจ็ฐตรงบริเวณท้องน้อยอย่างรุนแรง :: การรักษา
ถ้าปวดท้องไม่มากให้ยาแก้ปวด paracetamol 500 มก.คร้งละ 1-2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง
ให้ยาปฏิชีวนะ Ampicillin หรือ Tetracyclin 250 มก.ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน
ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ภายใน 2-3 วันหรือเป็นไข้สูง หรือปวดท้องมาก ควรส่งพบแพทย์เพื่อตรวจภายในช่องคลอด ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ หรือหนองไปตรวจหาเชื้อต่อไป
:: MENU OF HEALTH ::
")
-->


กระเพาะปัสสสาวะอักเสบ (Cystitis)กระเพาะปัสสสาวะอักเสบ (Cystitis) พบได้บ่อยในผู้หญิง ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในผู้หญิงตั้งครรภ์ ในช่วง 2-3 เดือนแรก สาเหตุอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่อยู่บริเวณทวารหนัก เข้าไปทางท่อปัสสาวะ หรืออาจเกิดจากภาวะแทรกซ้อนจากนิ่วใน กระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมากโต ผู้ป่วยที่ได้รับการสวนปัสสาวะ หรือผู้ป่วยโรคเบาหวาน :: อาการ
อาจมีไข้ ปัสสาวะกระปริดกระปรอย รู้สึกปวดขัด หรือแสบร้อนเวลาถ่ายปัสสาวะ อาจมีการปวดที่ท้องน้อย ปัสสาวะอาจมี กลิ่นเหม็น ขุ่นหรือ มีเลือดปน ในเด็กอาจมีปัสสาวะรดที่นอน เบื่ออาหารอาเจียน :: สิ่งที่ตรวจพบ
ในกรณีเป็นเฉียบพลัน จะมีใข้ ปวดบริเวณท้องน้อย :: การรักษา
ให้ดื่มน้ำมากๆ วันละ 3-4 ลิตร
ให้ยาแก้ปวดลดไข้ paracetamol 500 มก.คร้งละ 1-2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง
ให้ยาปฏิชีวนะ co-trimoxazole 400 มก.ครั้งละ 2 เม็ดวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 10 วัน ampicillin 250 มก. ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน
ถ้าอาการไม่ดีขึ้น หรือเป็นซ้ำกันหลายๆครั้ง ควรส่งพบแพทย์เพื่อตรวจปัสสาวะ นำปัสสาวะไปเพาะเชื้อ x-ray หรืออาจต้อง ส่องกล้องตรวจระบบทางเดินปัสสาวะ (cystoscope)
:: MENU OF HEALTH ::
")
-->



การรักษา

กระเพาะอักเสบ (Gastritis)กระเพาะอักเสบ (Gastritis) เกิดขึ้นบ่อยในทุกวัย แต่มักพบในผู้ใช้แรงงานที่ซื้อยาแก้ปวดที่มีส่วนผสมของ aspirin มารับประทานเป็นประจำ หรือในคนที่ชอบรับประทานอาหารรสจัด ส่วนเกิดจากเชื้อโรค ก็อาจพบได้แต่ค่อนข้างจะน้อย :: อาการ
คลื่นใส้ อาเจียน ปวดเสียดแน่นตรงบริเวณใต้สิ้นปี่ อาจมีไข้ ท้องเดินร่วมด้วย :: การรักษา
งดนำและอาหารก่อนจนกว่าอาการคลื่นใส้ อาเจียนจะหายไป ถ้าอาการดีขึ้นให้อาหารน้ำ และอาหารอ่อนตามลำดับ
ให้ยาลดกรด Almagel หรือ Alum milk หรือ Aludrox ผู้ใหญ่คร้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ (เม็ด) เด็กครั้งละ 1/2 -1 ช้อนโต๊ะ (เม็ด) ทุก4-6 ชั่วโมง
ให้ยากล่อมประสาท Diazepam 2 มก. ครั้งละ 1-2 เม็ด วันละ 2-4 ครั้ง เมื่อมีไข้ให้ยาลดไข้ paracetamol 500 มก. ครั้งละ 1 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง
ถ้าอาการรุนแรงมาก ให้รีบส่งพบแพทย์

สถิติการเกิดโรคมะเร็งเต้านม

ในปัจจุบันโรคมะเร็ง Cancer

เกิดจากพฤติกรรมการรับประทางอาหาร

หากสตรีมีการตรวจเต้านม

ของตนเองเป็นประจำ

ก็เป็นการเฝ้าระวังอีกทางหนึง