วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2551

การรักษา

คออักเสบ(Pharyngitis)เป็นโรคที่บ่อยในระบบทางเดินหายใจ มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย ที่สำคัญคือเชื้อแบคทีเรีย Beta Streptocuccus graup A ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรครูมาติก ไข้ดำแดง และหน่วยไตอักเสบ :: อาการ
ในกรณีที่ฉับพลันจะมีไข้สูงทันทีทันใด ปวดศรีษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ครั่นเนื้อครั่นตัว หรือหนาวสะท้าน บางคนอาจจะเข็บคอมากขนกลืนน้ำและอาหารลำบาก :: สิ่งที่ตรวจพบ
ไข้สูง 39-40 องศาเซลเซียส อาจพบทอนซิลบวมโตมีแดงจัดหรือมีจุดหนองเป็นจุดๆบริเวณทอนซิล :: การรักษา
ให้ผู้ป่วยพักผ่อนให้เพียงพอ ให้ดื่มน้ำมาก ๆ และใช้ผ้าเช็ดตัวเวลาไข้สูง รัปทานอาหารอ่อน ดื่มน้ำหวานหรือผลไม้มากๆ
ถ้าเจ็บคอมากให้กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ วันละ 2-3 ครั้ง
ให้ยาลดไข้ Paracetamol ทุก 4-6 ชั้วโมงเวลามีไข้
อาการไม่ดีขึ้นภายใน3 วัน หรือมีอาการหอบ สงสัยมีปอดอักเสบควรรีบส่งแพทย์
:: MENU



ใส้ติ่งอักเสบ(Appendicitis)เป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดในผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้องรุนแรงที่ต้องผ่าตัด(Acute abdomen)สาเหตุเกิดจากการอุดตันของใส้ติ่ง อาจเกิดจากเศษอุจจาระตกลงไปทำให้มี การอักเสบ :: อาการ
มีไข้ต่ำๆ อาการปวดท้องอาจเริ่มปวดเป็นพักๆ รอบสะดือ ต่อมาอีก 3-4 ชั่วโมง อาการปวดจะย้ายไปที่ท้องน้อยขวา ลักษณะปวดเสียดตลอดเวลาต้องนอนนิ่งๆ เคลื่อนไหวตัวจะทำให้ปวดมากขึ้น อาจมีอาการคลื่นใส้ อาเจียนร่วมด้วย :: สิ่งที่ตรวจพบ
ไข้ 37.5-38 องศาเซลเซียส กดเจ็บตรงบริเวณท้องน้อยข้างขวา ในกรณีใส้ติ่งแตกไข้จะสูงจะมีอาการปวด เจ็บทั่วท้องน้อย คลำได้ก้อน :: การรักษา
หากสงสัยให้รีบส่งแพทย์โดยเร็ว
:: MENU OF HEALTH ::
")
-->


วัณโรคปอด(Pulmonary tuberculosis)เป็นโรคที่พบบ่อยในคนที่มีร่างกายอ่อนแอ ภูมิต้านทานโรคต่ำ สาเหตุเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Mycobacterium tuberculosis) :: อาการ
อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลด อาจมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว หรือมีไข้ต่ำ ๆ ตอนบ่าย มีเหงื่อออกตอนกลางคืน ต่อมาจึงมีอาการไข้ ระยะแรกจะไอแห้งๆ ต่อมาจึงมีเสหะไอมากเวลาเข้านอน หรือตื่นนอนตอนเช้า อาการไออาจเรื้อรังเป็นแรมเดือน :: สิ่งที่ตรวจพบ
มีไข้ ซีด หายใจหอบ อาจคลำต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอได้ :: การรักษา
หากสังสัย ควรรีบส่งพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรค
:: MENU OF HEALTH ::
")
-->


มดลูกอักเสบ (Endometritis)เป็นโรคที่พบได้บ่อยในหญิงเจริญพันธ์ สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเข้าทางช่องคลอดขึ้นไปในโพรงมดลูก หรือเป็นภาวะแทรกซ้อน ที่พบในหญิงหลังคลอด แท้งบุตร ทำแท้ง หรือขูดมดลูก :: อาการ
ไข้สูง หนาวสั่น ปวดท้องน้อยอย่างรุนแรง และมีอาการตกขาวเป็นหนองจำนวนมาก และมีกลิ่นเหม็น ถ้าเกิดหลังคลอด หรือแท้งบุตรจะพบว่าน้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็นมาก :: สิ่งที่ตรวจพบ
ไข้สูง กดเจ็ฐตรงบริเวณท้องน้อยอย่างรุนแรง :: การรักษา
ถ้าปวดท้องไม่มากให้ยาแก้ปวด paracetamol 500 มก.คร้งละ 1-2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง
ให้ยาปฏิชีวนะ Ampicillin หรือ Tetracyclin 250 มก.ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน
ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ภายใน 2-3 วันหรือเป็นไข้สูง หรือปวดท้องมาก ควรส่งพบแพทย์เพื่อตรวจภายในช่องคลอด ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ หรือหนองไปตรวจหาเชื้อต่อไป
:: MENU OF HEALTH ::
")
-->


กระเพาะปัสสสาวะอักเสบ (Cystitis)กระเพาะปัสสสาวะอักเสบ (Cystitis) พบได้บ่อยในผู้หญิง ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในผู้หญิงตั้งครรภ์ ในช่วง 2-3 เดือนแรก สาเหตุอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่อยู่บริเวณทวารหนัก เข้าไปทางท่อปัสสาวะ หรืออาจเกิดจากภาวะแทรกซ้อนจากนิ่วใน กระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมากโต ผู้ป่วยที่ได้รับการสวนปัสสาวะ หรือผู้ป่วยโรคเบาหวาน :: อาการ
อาจมีไข้ ปัสสาวะกระปริดกระปรอย รู้สึกปวดขัด หรือแสบร้อนเวลาถ่ายปัสสาวะ อาจมีการปวดที่ท้องน้อย ปัสสาวะอาจมี กลิ่นเหม็น ขุ่นหรือ มีเลือดปน ในเด็กอาจมีปัสสาวะรดที่นอน เบื่ออาหารอาเจียน :: สิ่งที่ตรวจพบ
ในกรณีเป็นเฉียบพลัน จะมีใข้ ปวดบริเวณท้องน้อย :: การรักษา
ให้ดื่มน้ำมากๆ วันละ 3-4 ลิตร
ให้ยาแก้ปวดลดไข้ paracetamol 500 มก.คร้งละ 1-2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง
ให้ยาปฏิชีวนะ co-trimoxazole 400 มก.ครั้งละ 2 เม็ดวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 10 วัน ampicillin 250 มก. ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน
ถ้าอาการไม่ดีขึ้น หรือเป็นซ้ำกันหลายๆครั้ง ควรส่งพบแพทย์เพื่อตรวจปัสสาวะ นำปัสสาวะไปเพาะเชื้อ x-ray หรืออาจต้อง ส่องกล้องตรวจระบบทางเดินปัสสาวะ (cystoscope)
:: MENU OF HEALTH ::
")
-->



ไม่มีความคิดเห็น: